Japan

รวบรวมที่เที่ยวในญี่ปุ่น รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น คำแนะนำ
การจองรถไฟ อาหารการกินต่าง ๆ 

เมืองฟุคุชิมะเป็นเมืองเป็นเมืองที่แวดล้อมไปด้วยภูเขาที่สวยงาม และมีแหล่งน้ำพุร้อนมากมาย โดยได้รับความสนใจอย่างมากภายหลังเมืองฟุคุชิมะได้ถูกแผ่นดินไหวหรือสินามิในปี 2011 เนื่องจากเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ นอกจากนี้เมืองฟุคุชิมะยังเป็นเมืองที่อนุรักษ์วิถีชีวิตดังเดิมของชาวญี่ปุ่น การเดินทางมายังฟุคุชิมะสามารถนั่งรถไฟมาลงสถานี JR Fukushima Station โดยเมืองฟุคุชิมะมีสถานที่ท่องเที่ยว ดังนี้

สำหรับใครๆที่มาเกียวโตนี้ ก็ไม่ผิดหวังเลยทีเดียวค่ะ เพราะเมืองเกียวโตนี้นับเป็นเมืองหนึ่งมีความสวยงามด้านโบราณสถาน และมีโบสถานเก่าแก่นับเป็นพันปี เนื่องจากเกียวโตเคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น ก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปยังโตเกียว เมืองแห่งนี้จึงมีโบราณสถานมากมายและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้เลยทีเดียว ซึ่งการเดินทางมายังเมืองเกียวโตนั้นสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นมาลงสถานี Kyoto โดยสามารถจองล่วงหน้า และผู้ถือบัตร JR Pass สามารถขึ้นฟรีค่ะ มารู้จักสถานที่ท่องเที่ยวไหนบ้างในเกียวโตที่ฟูแนะนำห้ามพลาดมาดูกันเลยค่ะ

ฮาโกดาเตะ เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด ซึ่งเป็นเมืองท่าส่งออกและทำการค้าขายกับตั้งชาติตั้งแต่ปี 1855 เป็นเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมของญี่ปุ่น และวัฒนธรรมต่างชาติ เช่น เกาหลี จีนและชาติตะวันตก ซึ่งการเดินทางมายังฮาโกเตะนั้นสามารถนั่งรถไฟมาลงสถานี Hakodate หรือสถานี JR Hakodate ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในฮาโกดาเตะมีอะไรบ้างมาดูกัน

อะบาชิริเป็นเมืองที่อยู่ติกับทะเลของเกาะฮอกไกโด ในอดีตเหมือนนี้เป็นที่คุมขังของนักโทษ นอกจากนี้เมืองนี้มีเทศกาลทะเลน้ำแข็งอะบาชิริ เนื่องจากว่าในฤดูหนาวนั้นจะมีก้อนน้ำแข็ง (Drift Ice) แผ่เต็มทะเล การเดินทางมาเมืองอะบาชิรินั้น สามารถนั่งรถไฟ JR Limited Express “Okhotsk” ค่ะ มาดูสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนี้มีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

โอตารุเป็นเมืองขนาดเล็กสามารถเดินเที่ยวรอบเมืองได้ เมืองนี้มีสัญลักษณ์เครื่องแก้วและกล่องดนตรี ดดยมีถนนช้อปปิ้งชื่อดังบนถนน Sakai machi การเดินทางมาโอตารุนั้น สามารถนั่งรถไฟ JR Local หรือ JR Rapid Airport จากสถานีซัปโปโร ไปยังสถานี Otaru หรือ Minami Otaru(30-40นาที) มาดูสถานที่ท่องเที่ยวในโอตารุดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง

อยากจะไปเที่ยวต่างประเทศแบบไม่ต้องขอวีซ่าให้ยุ่งยาก มาดูกันดีกว่าค่ะมีประเทสอะไรบ้างที่ไม่ต้องขอวีซ่ากันค่ะ

เมืองโนบอนิเบ็ตสึเป็นเมืองที่มีน้ำพุร้อนชื่อดังในออกไกโด เป็นเมืองเล็กๆที่สามารถเดินเที่ยวได้ โดยมีหุบเขานรกที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และมีรูปปีศาจบ่อน้ำพุร้อนเป็นสัญลักษณ์ของเมือง การเดินทางมายังเมืองโนบอริเบ็ตสึสามารถนั่งรถไฟ JR Limited Express “Hokuto” จากสถานี Sapporo ลงสถานี Noboribetsu (ประมาณ 1 ชั่วโมง) และนั่งรถบัส Donan Bus ไปยัง Noboribetsu Bus Terminal(15 นาที) ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในโนบอริเบ็ตสึมีดังนี้

เมืองคุชิโระเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเกาะฮอกไกโด ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสายหมอก (Foggy Town) อีกด้วยค่ะ เมืองคุชิโระยังเป็นถิ่นที่อยู่ของนกกระเรียนญี่ปุ่น ที่ใกล้จะสูญพันธ์จากโลกนี้แล้ว ซึ่งการเดินทางมาเมืองคุชิโระนั้นสามรถนั่งรถไฟ JR Limited Express “Super Ozora” จากสถานีซัปโปโร ลงสถานี Kushiro (4 ชม.) หรือนั่งรถไฟ JR Senmo Line จากสถานีอะบาชิริ (3ชม.) มาดูสถานที่ท่องเที่ยวเมืองคุชิโระมาอีกอะไรบ้าง

ในญี่ปุ่นมีรถไฟความเร็วสูงที่สามารถนั่งเชื่อมต่อไปยังเมืองต่างๆ โดยมีชนิดต่างๆดังนี้

นิกโก้ (Nikko) เป็นเมืองมรดกโลก และอยู่ทางตอนเหนือของโตเกียว โดยใช้เวลาการเดินทางจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งสามารถเดินทางท่องเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับได้ โดยเมืองนิกโก้เป็นเมืองเล็กๆที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเอโตะ จึงเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่สำคัญและมีความงดงามของวัดและศาลเจ้าต่างๆที่มีชื่อเสียง จึงได้รับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นเขตมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยได้ขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ การเดินทางมายังนิกโก้นั้นสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากสถานี Tokyo หรือ Ueno ขบวน Yamabiko, Tsubasa, Nasuno ลงสถานี JR Utsunomiya (เดินทางประมาณ 50 นาที) แล้วจึงเปลี่ยนขบวน JR Nikko Line ลงสถานี JR Nikko (45 นาที) ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของนิกโก้มีดังนี้

หากเราเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยรถไฟ สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือตารางการเดินทางรถไฟญี่ปุ่น ดดยเราสามารถเช็คไดผ่าน app หรื เว็บไซด์ได้เลยค่ะ ซึ่งวันนี้ฟูจะมาออิธิบานวิธีการเช็คตารางเวลารถไฟญี่ปุ่นกันค่ะ

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีภูมิภาคถึง 9 ภูมิภาค หรือ 47 จังหวัด และมีสนามบินหลายแห่งที่ครอบคลุมเช่นกัน ซึ่งญี่ปุ่นจะมีสนามบินที่ใกล้หรืออยู่ในเมืองดังนี้

ฟุราโนะเป็นเมืองเล็กๆแต่มีความสวยงามของดอกไม้หลากสี รวมถึงโรงงานไวน์ และชีส ซึ่งสามารถเดินทางมายังฟุราโนะโดยนั่งรถไฟมาลงสถานี Furano ได้ มาดุสถานที่ท่องเที่ยวฟุราโนะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

อะซาฮิกาวะ เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเกาะฮอกไกโด และยังได้รับสมญานามว่า เป็นหลังคาของเกาะฮอกไกโดอีกด้วย เนื่องจากว่าเมืองอะซาฮิกาวะเป็นเมืองที่มียอดเขาอะซาฮิดาเกะที่มีความสูงถึง 2,290 เมตร นับว่าเป้นยอดเขาสูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง (Daisetsuzan National Park) สำหรับชื่อเมืองนั้นยังมีความหมาย เมืองพระอาทิตย์ยามเช้าเหนือแม่น้ำอีกด้วยค่ะ การเดินทางมาเมืองอะซาฮิกาวะนั้น สามารถนั่งรถไฟ JR Limited Express “Okhotsk” “Super Kamui” หรือ “Super Soya” จากสถานีซัปโปโร ลงสถานี JR Asahikawa ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง มาดูสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอาซาฮิกาวะกันดีกว่าค่ะมีที่ไหนบ้าง

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่แบ่งเป็นภูมิภาคต่างๆ เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆเช่นกันค่ะ โดยญี่ปุ่นั้นได้มีทั้งหมด 9 ภูมิภาคนั่นเอง และมีถึง 47 จังหวัดเลยทีเดียว มาดูกันดีกว่าค่ะว่าแบ่งเป็นภูมิภาคอะไรบ้าง และจังหวัดอะไรบ้าง ซึ่งขอไล่จากเหนือสุดไปยังใต้สุดนะคะ

บิเอะเป็นเมืองเล็กๆในทางใต้อะซาฮิกาวะ ของฮอกไกโด เป็นเนินเขาสูงต่ำสลับกัน โดยมีธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งสามารถเดินทางมาเมืองบิเอะโดยนั่งรถไฟ JR Furano Line ลงสถานี Biei โดยสถานที่ท่องเที่ยวในบิเอะมาดูกันดีกว่าค่ะ

ซัปโปโร เป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ในเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น และนับว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับ 5 ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ค่ะโดยซัปโปโรนี้จะผสมผสานความเป็นธรรมชาติและวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน เป็นศูนย์กลางค้า คมนาคม การศึกษาและเศรษฐกิจในฮอกไกโด ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโรมีที่ไหนบ้างมาดุกันได้เลยค่ะ

คาวากุชิโกะอยู่ใกล้ๆโตเกียว และเป็นหนึ่งในทะเลาสาบทั้งห้าแห่งรอบภูเขาไฟภูจิ ซึ่งคุณสามารถเดินทางมาชมความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิได้สถานที่แห่งนี้ ซึ่งการเดินทางมาคาวากุชิโกะนั้นสามารถนั่งรถไฟ JR จากสถานี Shinjuku ไปลงสถานี Otsuki จากนั้นก็เปลี่ยนรถไฟ Fujikyu Railway ไปยังสถานี Kawaguchiko ซึ่งใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง ด้วยค่าใช้จ่ายประมาณ 3,390 เยน หรือจะเลือกนั่งรสบัสจากชินจูกุมายังคาวากุชิโกะก็ได้ ซึ่งใช้เวลาเดินทางไม่แตกต่างกัน แต่รสบัสอาจเสี่ยงต่อวันที่รถติดได้ค่ะ ผู้ถือบัตร JR Pass ขึ้นฟรีค่ะ (JR Pass คืออะไร) ที่นี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนบ้างมาดุกันเลยค่ะ

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใครต่อใครนิยมไปท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนไทย เนื่องจากไม่ต้องทำวีซ่าให้วุ่นวาย และยังเป็นประเทศหนึ่งที่แทบจะมีครบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะมีธรรมชาติที่สวยงาม เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย การเดินทางที่สะดวกสบาย การมีวินัยความปลอดภัย ผู้คนเป็นมิตร แหล่งช้อปปิ้งมากมาย อาหารการกินที่แสนอร่อย อีกทั้งยังใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 5-6 ชั่วโมง ซึ่งไม่ไกลจากเมืองไทยมากนัก ทั้งนี้โตเกียวเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมาก ไม่แพ้เมืองไหนๆ โดยสถานที่ท่องเที่ยวโตเกียวที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทาง คือ

           เมืองโทยะ เป็นเมืองที่ได้ขึ้นชื่อทะเลสาบ โดยทะเลสาบที่เกิดขึ้นเกิดเป็นทะเลสาบที่เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหลายแสนปีมาแล้ว ทะเลสาบโทยะเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเมืองโทยะ ดดยการเดินทางไปยังทะเลสาบโทยะนั้น สามารถนั่งรถไฟ JR Limited Express “Hokuto” ลงสถานี Toya จากสถานี Sapporp (ประมาณ 1ชม. 50 นาที) ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโทยะมีดังนี้

เมืองเซ็นไดเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัดมิยางิและเมืองเป็นเมืองใหญ่มีความทันสมัย อยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 300 กิโลเมตร ก่อตั้งปี ค.ศ. 1600 ซึ่งผู้ก่อตั้งคือ ไดเมียวดาเตะ มะชะมุเนะ เมืองเซ็นไดนี้มีอนุสาวรีย์ของท่านดาเตะ โดยได้รับฉายาว่า “ไดเมียวตาเดียวแห่งภาคเหนือ” ซึ่งเป็นวีรบุรุษประจำเมืองเซ็นได การเดินทางมายังเมืองเซ็นไดนั้นสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากสถานีโตเกียวขบวน Hayabusa, Yamabiko, Hayate ลงสถานีเซนได ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเซนไดมีดังนี้

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้