สถานที่ท่องเที่ยวเมืองคยองจู จังหวัดคยองซัง ในเกาหลี

Last updated: 30 ส.ค. 2562  |  2663 จำนวนผู้เข้าชม  | 

สถานที่ท่องเที่ยวเมืองคยองจู จังหวัดคยองซัง ในเกาหลี

สถานที่ท่องเที่ยวเมืองคยองจู จังหวัดคยองซัง ในเกาหลี

      นับว่าเป็นมืองที่มีความเก่าแก่ที่เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรชิลลาที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อน โดยอาณาจักรชิลลาเป็นหนึ่งในสามอาณาจักรโบราณของเกาหลีอายุกว่าสองพันปี ซึ่งรุ่งเรืองถึงขีดสุดในช่วงศตวรรษที่ 7  ที่ยังหลงเหลือโบราณสถานวัตถุสำคัญมากมาย เมืองนี้จึงได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก และได้รับการยกย่องว่าเป็นเมือง “พิพิธภัณฑ์ไร้กำแพง” ซึ่งสามารถเดินทางโดยนั่งรถไฟหัวหระสุน KTX จากสนามบินนานาชาติอินชอน มาลงสถานี Singyeongju (3.10 ชม.)  แล้วนั่งรถบัสสาย 50, 70 หรือ 700 ไปลงที่ Gyeongju Bus Terminal หรือนั่งรถไฟหัวกระสุน KTX จากสถานี Seoul ไปลงสถานี Singyeongju (2 ชม.)  แล้วนั่งรถบัสจาก Seoul Express Bus Terminal ไปลง Gyeongju Bus Terminal (3.45 ชม.) ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเมืองคยองจูมีดังนี้

อุทยานทูมูลิ (Tumuli Park Tombs Park)

      อุทยานแห่งนี้มีอีกชื่อเรียกว่า สุสานหลวง Daereungwon ซึ่งนับว่าเป็นสุสานหลวงของราชวงศ์ชิลลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยมีสุสานภายในอยู่ทั้งหมดกว่า 23 แห่ง โดยสุสานแต่ละแห่งจะเป็นเนินดินทรงกลมขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 15-20 เมตร โดยมีสุสานเนินดินแฝด ที่มีชื่อว่า Hwangnam Deacheong ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดด้วยความสูงกว่า 20 เมตร จึงถือว่าเป็นไฮไลท์ของเมืองคยองจู  นอกจากนี้ยังมีสุสานที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น สุสาน Choenmachong หรือ Heavenly Horse Tomb ซึ่งถูกค้นพบในปีค.ศ. 1973

     การเดินทางมายังอุทยานทูมูลิสามารถเดินจาก Gyeongju Bus Terminal ประมาณ 700 เมตร หรือนั่งรถบัสสาย 70 ลงป้าย Cheonmachong



หอดูดาวซ็อมซ็องแด (Cheomseongdae Observatory)

       เป็นหอดูดาวที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออก ที่มีลักษณะคล้ายขวด ขนาดเล็ก สูงประมาณ 3 ชั้น ถูกสร้างขึ้นในสมัยของราชินีซอนต็อคในศตวรรษที่ 7 โดยมีลักษณะคล้ายรูปกระบอกจำนวน 27 ชั้น สร้างด้วยการวางทับกันของหินแกรนิตขนาด 30 ซม. จำนวน 362 ก้อน ที่แสดงถึงจำนวนวันในปีจันทรคติ มีความสูงกว่า 9.17 เมตร ซึ่งสร้างเพื่อสังเกตดูดาว และถูกจัดให้เป็นสมบัติแห่งชาติลำดับที่ 31 เมือ่ปีค.ศ. 1962 สำหรับการเดินทางมายังหอดูดาวซ็อมซ็องแดนั้นสามารถเดินทางจากสุสานทูมูลิทางฝั่งทิศใต้ได้เลย



พระราชวังทงกุงคย็องจูและสระโวลจี (Gyeongju Donggung Palace and Wolji Pond)

        ซึ่งสระนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า สระอันอั๊บจิ ที่ถูกสร้างขึ้นในปีที่ 14 ของกษัตรย์มุนมู (Munmu) แห่งอาณาจักรชิลลา และเป็นแหล่งที่สำคัญจากการถูกค้นพบโบราณวัตถุกว่าหมื่นชิ้นในปี ค.ศ. 1974 จึงมีพื้นที่ Imhaejeon site ที่ประกอบด้วยสระวอลจิ (Wolji pond) ซึ่งลักษณะสระจะเป็นรูปทรงกลมขนาดใหญ่ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 200 เมตร และความสูง 180 เมตร ประกอบด้วยเกาะกลางน้ำขนาดเล็ก 3 เกาะ และกลุ่มอาคารโบราณที่สร้างล้อมรอบสระน้ำ ที่เผยให้เห็นโครงสร้างของกลุ่มอาคารสมัยนั้น

        สำหรับการเดินทางมายังพระราชวังทงกุงคย็องจูและสระโวลจี นั่งสาย 600 จากฝั่งตรงข้าม Gyeongju Bus Terminal มาลงป้าย Anapji Entrance

วัดมุนฮวางซา (Bunhwangsa Temple)

     วัดแห่งนี้เป็นหนึ่งใน 7 วัดที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองคยองจู ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 634 ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางในการเก็บพระไตรปิฎกและพระบรมสารีริกธาตุ และได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติลำดับที่ 30 โดยมีเจดีย์อิฐฐาน 4 เหลี่ยม (Mojeon Stone Tower) ที่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ และวิหารที่มีความเก่าแก่ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์สีทอง สำหรับการเดินทางมายังวัดมุนฮวางซานั้นสามารถนั่งรถเมล์สาย 10, 70 หรือ 100 จาก  Gyeongju Bus Terminal ลงป้าย Bunhwangsa Temple


หมู่บ้านวัฒนธรรมคโยซอน (Gyeongju Gyochon Traditional Village)

       หมู่บ้านี้แห่งนี้เป็นสถานศึกษาแห่งแรกของประเทศเกาหลีใต้ที่ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 682 ในสมัยพระเจ้า Sinmun โดยได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติลำดับที่ 30 สาขาหมู่บ้านโบราณ จากที่หมู่บ้านแห่งนี้ตกแต่งและสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบฮันอก (Hanok) แท้ที่ยังคงหลงเหลือให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ทั้งนี้ภายในหมู่บ้านนั้นมีร้านอาหาร ร้านค้า รวมถึงพิพิธภัณฑ์ โดยเฉพาะบ้านพักของตระกูล Choi ซึ่งเป็นตระกูลที่มีอำนาจบารมีมีชื่อเสียงมากที่สุดในครั้งอดีต เนื่องจากเป็นที่รักและเคารพแก่ชาวเกาหลีสมัยนั้น  ซึ่งบ้านพักหลังนี้สามารถเดให้คนทั่วไปชมได้ ส่วนสำหรับการเดินทางมายังหมู่บ้านวัฒนธรรมคโยซอนนั้นนั่งรถบัสสาย 61 จาก Gyeongju Bus Terminal มาลง Sila hoegwan


วัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple)

       คำว่า “พุลกุกซา” หมายถึงดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา นับว่าเป็นวัดพุทธที่มีความเก่าแก่และความสวยงามตามแบบสมัยของอาณาจักรชิลลา ที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 528 และได้รับการบันทึกจากองค์การ UNESCO ในปีค.ศ. 1995 ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยด้านหน้าของวัดจะเป็นสระน้ำแห่งปัญญา และมีสะพานหินทอดยาวข้ามสู่ประตูเทพพิทักษ์ 4 ด้าน โครงสร้างของวัดจะเป็นโครงสร้างแบบโบราณของเกาหลี

มีโบสถ์อยู่ตรงกลาง เป็นที่ประดิษฐานของพระประธาน ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาในวัดแห่งนี้  สำหรับการเดินทางมายังวัดพุลกุกซานั้น สามารถนั่งรถบัสสาย 10, 11, 700 จากฝั่งตรงข้าม Gyeongju Bus Terminal มาลงป้าย Bulguksa Temple

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 5000 วอน วัยรุ่น(13-18 ปี) 2500 วอน เด็ก 2500 วอน ต่ำกว่า 7 ขวบเข้าฟรี



 

หมู่บ้านมรดกโลกยางดอง (Yangdong Folk Village)

       หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 500 ปี ที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจซอน ในช่วงค.ศ. 1392-1910  ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การ UNESCO ในปีค.ศ. 2010 และได้รับการจัดลำดับให้เป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านหมายเลข 189  ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามกว่า 200 หลังคาเรือน สำหรับการเดินทางมายังหมู่บ้านมรดกโลกยางดอง สามารถนั่งรถบัสสาย 203 จาก Gyeongju Bus Terminal มาลง Yangdong Folk Village

ค่าเข้าชม : 4000 วอน



สวนพฤกษาศาตร์เขตร้อนและสวนนกคยองจู (Gyeongju East Palace Garden)

      สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งสวนพฤกษาสตร์ และสวนสัตว์ โดยมี Donggung Palace เป็นอาคารเรือนกระจกที่รูปทรงคล้ายพระราชวังโบราณสมัยอาณาจักชิลลา ที่ภายในจะเป็นสวนพฤกษสาตร์พืชเขตร้อน และ Gyeongju Bird Park จะเป็นอาคาเรือนกระจกที่มีรูปทรงคล้ายนกแบ่งเป็นโซนต่างๆ ที่รวบรวมนกสายพันธุ์ต่างๆ ไว้ เช่น นกเลิฟเบิร์ด (Love bird) นกเหงือก นกแก้ว นกทูแคน (Toucan) นกค็อกคาเทล (Cockatiel) และสายพันธุ์อื่นๆมากมาย ซึ่งสามารถนั่งรถบัสสาย 10 จากฝั่งตรงข้ามGyeongju Bus Terminal ลงป้าย Donggungwan Entrance



ถ้ำซอคคูรัม (Seokguram Grotto)

      วัดถ้ำซอคคูรัม เป็นวัดในศาสนาพุทธที่สร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรซิลล่า โดยมีวิหารวัดที่สร้างขึ้นด้วยการเจาะถ้ำเข้าไป เป็นที่ประดิษฐานพระศากยมุนีทัธคัตตตา ที่สร้างขึ้นด้วยหินขาว ส่วนด้านหลังจะแนรูปแกะสลักของเทพเจ้าอีก 8 องค์ และพระโพธิสัตว์อีก 2 องค์ จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ในปีค.ศ. 1995 ซึ่งสามารถนั่งรถบัสสาย 12 จากฝั่งตรงข้ามวัดพุลกุกซา มายังป้าย Seokguram Grotto

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้