สด-ยาว-ใหญ่ ที่สุดของประเทศและในโลก : ไหว้พระวัดดัง อ่างทอง

Last updated: 13 พ.ค. 2566  |  1767 จำนวนผู้เข้าชม  | 

สด-ยาว-ใหญ่ ที่สุดของประเทศและในโลก : ไหว้พระวัดดัง อ่างทอง

 
 
สด-ยาว-ใหญ่ ที่สุดของประเทศ : ไหว้พระวัดดัง อ่างทอง

        ใครว่าจ.อ่างทองเป็นเพียงทางผ่าน จ.อ่างทองนั้นมีวัดดัง วัดสวยหลายวัดเลยนะคะ และยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศ หรือองค์ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งฟูจะพาไปตะเวณไหว้พระ หลวงพ่อสด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก วัดจันทรังษี พระพุทธรูปทรงนั่งองค์ใหญ่ที่สุดในโลก วัดม่วง และพระนอน เคยองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศ วัดขุนอินทประมูล ให้สมกับสโลแกนโปรโมทการท่องเที่ยวจ.อ่างทอง “สด ยาว ใหญ่”

ที่แรกที่ฟูจะพาไปคือ วัดจันทรังษี ตั้งอยู่ที่ ตำบล หัวไผ่ อำเภอเมืองอ่างทอง อ่างทอง หรือตามที่พิกัดนี้ได้เลย

หลังจากเข้ามาวัดจันทรังษีแห่งนี้ วัดนี้แสนร่มรื่น เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุ่นพล่าน วัดจันทรังษีสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2446

ภายในวัดจะเห็นพระมหาวิหารจัตุรมุข  เป็นวิหารจัตุรมุข ที่มียอดบุษบกกลาง 5 ชั้น สูง 48 เมตร กว้าง 24 เมตร ยาว 33 เมตร


ด้านข้างพระวิหารจะมีสิงโตนั่งเด่นสง่า ซึ่งต้นแบบสิงโตมาจากศาลไทฟง


ภายในก็จะประดิษฐานรูปหล่อ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ (หลวงพ่อสด จันทสโร) ที่หล่อด้วยโลหะมีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แต่ยังใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยค่ะ โดยมีขนาดหน้าตักกว้าง 6 เมตร 9 นิ้ว สูง 9 เมตร 9 นิ้ว


การขอพรนั้น สามารถลูบบริเวณแก้วเบื้องหน้าหลวงพ่อสดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ลูบแก้วนั้นสามารถอธิษฐานขอพรได้เลยค่ะ


ขับรถออกไปไม่ไกลนัก ประมาณไม่เกิน 20 นาที จะเห็นวัดม่วง

ซึ่งวัดม่วง ตั้งอยู่ตำบลหัวตะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง หรือตามพิกัดนี้ได้เลยค่ะ ซึ่งเมื่อเลี้ยวซ้ายเข้าซอยตามป้ายวัดม่วงแล้ว เราจะเห็นหลวงพ่อใหญ่อยู่ไกล ๆ ค่ะ ทางฝั่งขวามือ

วัดม่วง สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2230 ซึ่งต่อมาได้กลายสภาพเป็นวัดร้าง ได้รับบูรณะปฎิสันขรณ์ขึ้นมาใหม่ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปี พ.ศ. 2230 ณ แขวงเมืองวิเศษชัยชาญ ซึ่งเคยเป็นหน้าด่านที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก ต่อมาในปี พ.ศ. 2310 กรุงศรีอยุธยาได้เสียกรุงให้แก่พม่า

จนวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2525 ท่านพระครูวิบูลอาจารคุณ (หลวงพ่อเกษม อาจารสุโก) ได้มาปักกลดธุดงค์เห็นว่าบริเวณนี้เคยเป็นวัดร้าง จึงนำมาปฎิบัติธรรม แต่ขณะปฎิบัติธรรม ได้ปรากฎนิมิต เห็นองค์หลวงปู่ขาว และหลวงปู่แดง มาบอกว่าให้ท่านได้ช่วยก่อสร้างวัดม่วงขึ้นมาใหม่ เพราะท่านพระครู เป็นผู้มีบารมี ที่สามารถจะก่อสร้างบูรณะวัดม่วงขึ้นมาใหม่ได้ด้วยผู้ที่เคยอาศัยในสมัยก่อนได้มาเกิดและจะมาช่วยท่านแล้ว และในบริเวณวัดร้างจะมีศิลาขาว และศิลาแดงอยู่ คือ องค์หลวงปู่ขาว และองค์หลวงปู่แดง นั้นเอง ซึ่งต่อมาท่านพระครูวิบูลอาจารคุณ ได้มีการปั้นองค์พระครอบศิลาขาวและศิลาแดง โดยเรียกนามว่า หลวงปู่ขาว และหลวงปู่แดง จนถึงปัจจุบัน

Founded in 1687 during the late Ayutthaya kingdom, Wat Muang fell into ruin after the Kingdom was invaded by Burma in 1982, it was rebuilt again by Phra Ku Wiboon Acharn Khun, who passed by the site during his forest-dweller’s practice. Two ancient stone tablets called “Silakao” amd “Siladaeng” were also found in the grounds of the temple.

เมื่อเราเข้าวัดแล้ว นอกจากที่จะเห็นหลวงพ่อใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ก็ยังเห็นเจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่ที่สุด

โอ้!! ไหนจะมีกลีบดอกบัวที่ใหญ่ที่สุดในโลกเช่นกัน ว้าว!!! อะไรจะใหญ่เยอะแยะขนาดนี้

ซึ่งกลีบดอกบัวที่จะใหญ่ที่สุดในโลกจะล้อมรอบพระอุโบสถ ภายในมีรูปปั้นเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศ


ก่อนที่จะเดินเข้าไปไหว้หลวงพ่อใหญ่กันค่ะ ก็แวะกราบพระในมหาวิหารแก้วรัตนพราหมณ์สุวรรณปาล กันก่อน

 

 
มหาวิหารแก้วรัตนพราหมณ์สุวรรณปาล นับว่ามีความงดงามมากค่ะ ประดับประดาด้วยแก้วชิ้นเล็ก ๆ ระยิบระยับทั้งภายนอกและภายใน

 
ภายในพระวิหารประดิษฐาน “หลวงพ่อเงิน” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่สร้างด้วยเนื้อเงินแท้องค์แรกของประเทศไทย
 
 
 


หลังจากนั้นเราก็เดินผ่านแดนนรก แดนสวรรค์ ซึ่งเป็นรูปปั้นจำลองแดนนรก แดนสวรรค์ หากใครทำกระทำผิดแบบไหน ก็จะได้รับโทษตามแบบนั้น


ก่อนที่จะขึ้นไปสักการะหลวงพ่อใหญ่ ฟูก็ไหว้พระข้างล่างก่อนนะคะ เบื้องหน้านั้นเห็นหลวงพ่อใหญ่ ขนาดใหญ่ตระการตา มีบันไดสูงโดยมีพญานาคเลื้อยเป็นราวบันได เพื่อขึ้นไปกราบไหว้หลวงพ่อใหญ่แบบใกล้ชิด


หลวงพ่อใหญ่ หรือ พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ  เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีขนาดหน้าตักกว้าง 63 เมตร สูงถึง 93 เมตร พระพุทธรูปองค์นี้สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2552 และนับว่าเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หลายคนอาจมองว่าหลวงพ่อใหญ่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกหรือเปล่า? แต่หลักฐานแล้วที่ฟูหาข้อมูลมาได้ ก็ต้องยืนยันว่าหากเป็นองค์นั่ง ก็นับว่าหลวงพ่อใหญ่ วัดม่วง อ่างทองนั้นมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่า เพราะตามหลักฐานแล้วมีพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่กว่าหลวงพ่อใหญ่ วัดม่วง แต่เป็นทรงยืน นั่นคือ อุชิคุ ไดบุทสึ (Ushiku Daibutsu) ที่ตั้งอยู่จังหวัด Ibaraki ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความสูง 120 เมตร รวมฐาน 10 เมตร และบานดอกบัวอีก 10 เมตร


แต่บางคนก็อาจจะติดตลกว่า เพราะหลวงพ่อใหญ่นั่งอยู่ ถ้ายืนขึ้นก็ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ววว นั้นเอาง่าย ๆ เลยค่ะว่า หลวงพ่อใหญ่ วัดม่วงนี้ ฟูให้เป็นพระพุทธรูปองค์นั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยค่ะ แบบนี้ดีกว่า...



หลังจากไหว้พระขอพรหลวงพ่อใหญ่กันแล้ว ฟูจะเดินทางไปยังวัดสุดท้าย นั่นคือ วัดขุนอินทประมูล

เดินทางจากวัดท่วงประมาณ 15 นาทีก็ถึงวัดขุนอินทประมูลกันแล้ว เมื่อเข้าวัดมาก็จะเห็นพระนอน องค์ใหญ่อยู่เบื้องหน้าอย่างชัดเจน  


วัดขุนอินทประมูล ตั้งอยู่อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง  หรือตามพิกัดนี้ได้เลยค่ะ ด้านข้างพระนอน จะเห็นรูปปั้นเป็นชายคนหนึ่ง เล่ากันว่าขุนอินทประมูลซึ่งเป็นนายอากรได้ยักนอกเอาเงินหลวงมาสร้างต่อเติมพระและถูกเฆี่ยนจนตาย วัดนี้จึงได้ชื่อว่าวัดขุนอินทประมูล


วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยสน์เก่าแก่ ขนาดใหญ่มีความยาว 50 เมตร สูง 11 เมตร ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นทองคำ เป็นพระนอนที่เคยใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ปัจจุบันนั้นมีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย (พระนอนองค์ใหญ่ที่สุดอยู่ที่วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี สามัคคีธรรม จังหวัดแพร่ มีความยาว 85 เมตร) แต่อย่างไรถือว่าพระนอนขุนอินทประมูลเป็นพระนอนกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ ชาวบ้านเรียกว่า “พระศรีเมืองทอง” วัดนี้อยู่กลางทุ่งนา เดิมคือเคยมีพระวิหาร แต่พระวิหารหักพังไม่มีหลังคา
แต่วัดแห่งนี้มีความสำคัญมากในสมัยอยุธยา เมื่อคราวเสียกรุงศีอยุธยาครั้งที่ 1 วัดแห่งนี้ถูกไฟไหม้ และโดนพม่าหล่อทองคำนำไปจนองค์พระเป็นสีขาว และได้กลายเป็นวัดร้างอยู่ประมาณ 100 ปี จนถึงสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ วัดจึงได้รับการปฎิสังขรณ์ขึ้นมาอีกครั้ง


ความมหัศจรรย์ของพระนอนองค์นี้ คือการสร้างพระนอนที่ใหญ่ที่สุดนั้นในสมัยก่อน ไม่ได้เรื่องง่ายเลยค่ะ เพราะวิธีการสร้างพระนอนองค์นี้ในสมัยก่อนนั้น ไม่ได้มีเทคโนโลยีสร้างมากมายนัก เป็นเพียงภูมิปัญญาแก่ชาวบ้าน โดยการปั้นโอ่งคว่ำเป็นแกนกลาง โดยฐานเป็นอิฐมาวางเรียง แล้วนำโอ่งคว่ำซ้อนกันเรื่อย ๆ ตั้งแต่หัวไหล่ต่อกันไปจนถึงปลายพระบาท ซึ่งสมัยก่อนนั้นไม่มีเหล็กเส้น ไม่มีไม้ซุง เป็นเพียงเอาดินมาปั้นเป็นโอ่งเท่านั้น นั้นว่ามหัศจรรย์มากค่ะในการสร้างของคนสมัยก่อน ซึ่งมาจากแรงศรัทธาล้วน ๆ ค่ะ


สามารถกราบไหว้ขอพรในเรื่องการงาน การเงิน หากใครรู้สึกว่าดวงตก ดวงไม่ดี การงานไม่ดี ถูกกระทำ ถูกใส่ร้าย ถูกโกง และเกี่ยวกับที่ดิน สามารถมาขอพระกับท่านได้ ขอบารมีกับท่านได้ เชื่อกันว่าสถานที่นี้มีองค์พญานาค เป็นบารมีประสิทธิขององค์มุจลินท์นาคราช และบารมีประสิทธิขององค์ปู่ภูริทัตตนาคราช ที่คอยดูแลสถานที่แห่งนี้ และเล่ากันว่าสถานที่แห่งนี้เคยมีเกจิดังเดินธุดงมาแวะที่นี้ เช่น หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ด้านหลังพระนอน จะมีประตูที่พึ่งปิดไปปี 2543 สำหรับเข้าไปองค์พระ ซึ่งเล่ากันว่าที่นี้จะมีพบงูขนาดใหญ่บ่อยมาก และจะมักเห็นงูขนาดใญ่เลื้อยเข้าไปทางด้านหลังประตู ซึ่งมีความเชื่อว่าบริเวณด้านหลังจะเป็นประตูเข้าสู่เมืองลับแล

ต้นไม้ขนาดใหญ่นี้อยู่ปลายพระบาทพระนอน เล่ากันว่ามีคนมักพบยายแก่บ่อย ๆ คอยดูแลที่นี้ หากใครมาคิดไม่ดีแก่วัด ก็มักจะได้พบเจอจนหลอนไปตามกัน และเชื่อกันว่าต้นไม่นี้ขอเรื่องสุขภาพได้


ด้านหลังพระนอน จะมีอุโบสถที่พึ่งสร้างขึ้นค่ะ สามารถเดินลอดใต้พระอุโบสถก่อน โดยการลอดพระอุโบสถจะช่วยเรื่องการสะเดาะเคราห์ แก้ดวงตก
เพื่อขึ้นไปกราบพระพุทธมหามงคลจินดาพลบพิธข้างบน
ซึ่งภายในจะมีภาพวาดพระนอน พร้อมด้วยผู้คนมากกว่าร้อยคนยืน นั่งอยู่ล้อมรอบพระนอน ซึ่งว่ากันว่าคือผู้ที่ร่วมบริจาคเงินสร้างบูรณะพระนอน และวัดแห่งนี้


ด้านข้างพระนอนยังมีโบสถ์เก่าแก่ สมัยอยุธยา สร้างโดยขุนอินทประมูล โบสถ์แห่งนี้ไม่ใช่โบสถฺมหาอุต แต่ไม่มีหน้าต่าง สมัยก่อนการสร้างโบสถ์ลักษณะนี้ เนื่องจากจะสามารถเป็นแหล่งหลบภัยยามมีข้าศึกได้ด้วยค่ะ โบสถ์แห่งได้เคยถูกเผาจากข้าศึกในสมัยเสียกรุง  จนยังคงหลงเหลือตามสภาพอย่างที่เห็นค่ะ


ภายในโบสถ์ยังมีหลวงพ่อขาวประดิษฐาน และเล่ากันว่าโบสถ์แห่งนี้เคยมีเกจิมาธุดงค์หลายท่าน ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จโต พรหมรังสีอยู่ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เคยนั่งสมาธิที่นี้ จึงมีบารมีของเกจิหลายท่านที่เคยมานั่งกรรมฐานที่นี้ ซึ่งหากสามารถมานั่งสมาธิบนโบสถ์แห่งนี้ได้ และสามารถขอเรื่องบารมี สุขภาพ ที่ดิน ความเจริญรุ่งเรือง และความมีเชื่อเสียง


ภายในยังมีเจ้าแม่ชุดแดง คอยดูแลโบสถแห่งนี้ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องด้านโชคลาภ ซึ่งหลายคนมักจากมาขอโชคลาภที่นี้ แล้วถูกหวยกันเป็นประจำ

 

เห็นไหมคะอ่างทองมีดีกว่าที่เราคิด นอกจากจะมีพระองค์ใหญ่ที่สุดแล้ว ยังมีประวัติที่เก่าแก่มากเลยค่ะ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้